กระเบื้องยางคืออะไร

กระเบื้องยาง คือ วัสดุปูพื้นที่ผลิตจาก PVC (Poly Vinyl Chloride) เป็นโพลิเมอร์ชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับการปูพื้นโดยเฉพาะ คุณสมบัติเด่นคือมีความยืดหยุ่นสูง เนื้อวัสดุมีความเหนียว สามารถรองรับแรงกดทับหรือแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถลดอุบัติเหตุจากการลื่นได้ เพราะพื้นผิวมีความหนืด ทำให้ยึดเกาะได้ดี อีกทั้งยังทนต่อความชื้น ทนน้ำ และทนต่อรอยขีดข่วนได้

ประเภทของกระเบื้องยาง 

1. ผลิตจากยางธรรมชาติ : เป็นกระเบื้องยางที่ทำจากยางพารา มีความเหนียวและความยืดหยุ่น ทนต่อการใช้งาน ไม่เกิดการฉีกขาดง่าย มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 10 ปี

2. ผลิตจากโพลิเมอร์ : เป็นกระเบื้องยางที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ ประกอบด้วยพอลิเมอร์ 2 ชนิด คือ โพลียูรีเทน และพีวีซี ถ้าเป็นกระเบื้องยางเกรดดี จะมีโพลียูรีเทนมากกว่า เพราะมีคุณสมบัติดีกว่าพีวีซี จะมีความเหนียว ทนทานต่อการฉีกขาดได้มากกว่า แต่ถ้าโดนความร้อนมากๆ จะกรอบและเปราะบางง่ายเหมือนพีวีซี

ส่วนประกอบของกระเบื้องยาง มีทั้งหมด 6 ชั้น

ชั้นที่ 1 UV Coating : เป็นชั้นบนสุดของกระเบื้องยางที่เคลือบด้วย PU เพื่อปกป้องสีซีดจางจากแสงแดด ทำให้กระเบื้องยางมีสีสดใสใหม่เสมอ 

ชั้นที่ 2 Wear Layer : เป็นชั้นกันสึกเป็นแผ่นโพลีเมอร์ ที่มีคุณสมบัติปกป้องสี และลวดลายของกระเบื้องยาง ไม่ว่าจะเป็นลายไม้ หรือลายปูนก็ตาม

ชั้นที่ 3 Printing Layer : เป็นชั้นแผ่นที่แสดงลวดลาย และสีของกระเบื้องยางที่สวยงาม ซึ่งปัจจุบันมีลวดลายใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การพิมพ์ลายมีความคมชัด สวยงาม เสมือนจริงมากขึ้น มีหลายลายให้เลือก เช่น ลายไม้ ลายหินอ่อน ลายพรม 

ชั้นที่ 4 Fiberglass : อยู่ชั้นกลางของกระเบื้องยางเป็น signature ผลิตโดยใส่ส่วนผสมของไฟเบอร์กลาส เพื่อช่วยลดอัตราการยืดหดขยายตัวของ วัสดุกระเบื้องยางทำให้กระเบื้องยางทนต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสูงได้ดี

ชั้นที่ 5 Middle Layer : เป็นชั้นไวนิลที่กำหนดความหนาของกระเบื้องยาง และมีคุณสมบัติป้องกันแรงกระแทกและมีส่วน support ลดการยืดหดของกระเบื้องยาง

ชั้นที่ 6 Balance Layer : ชั้นล่างสุดของกระเบื้องยาง ชั้นที่มีคุณสมบัติ ลดการยืดหด และเพิ่มการยึดสัมผัส กับพื้นผิวที่ติดตั้งทำให้ไม่หลุดร่อนง่าย

วิธีดูแลรักษาหลังติดตั้งกระเบื้องยาง

เมื่อพูดถึงอายุการใช้งานของกระเบื้องยางแล้วนั้น ถึงแม้ว่าจะมีความทนทานสูง แต่การดูแลรักษาก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้กระเบื้องยางดูใหม่และทนทานเหมือนวันแรกที่ติดตั้ง ควรดูแลรักษา ดังนี้

การดูแลหลังปูกระเบื้องยางเสร็จ : ไม่ควรทำความสะอาดทันที จะต้องรอให้กาวแห้งสนิทก่อน อาจทิ้งไว้ 24 ชม. เพื่อความชัวร์จากนั้นค่อยเริ่มทำความสะอาดได้

การดูแลทำความสะอาดกระเบื้องยาง : การทำความสะอาดควรกวาดด้วยขนนุ่มๆ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน และใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาดๆ เช็ดพื้นให้สะอาด เพื่อขจัดฝุ่นและให้พื้นกระเบื้องดูสวยเงางามอยู่เสมอ

การดูแลพื้นผิวของกระเบื้องยางให้คงทนอยู่เสมอ : กระเบื้องยางไม่เหมาะกับการขัดถูแรงๆ เนื่องจากอาจทำให้ผิวเคลือบชั้นบนสุดเสื่อมสภาพได้ ดังนั้นเมื่อมีคราบสกปรก ให้รีบเช็ดออกทันที ไม่ควรทิ้งไว้นานจนเกิดคราบฝังลึก

การดูแลให้พื้นผิวของกระะเบื้องเรียบเนียน : ควรหาแผ่นรองเฟอร์นิเจอร์ สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่มีน้ำหนักมากๆ เช่น ขาโต๊ะ ขาตู้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยบุบหรือร่องรอยการกดทับบนกระเบื้องยางที่อาจเกิดขึ้นภายหลังจากนำเฟอร์นิเจอร์ออก

คุณสมบัติของกระเบื้องยาง

1. ทนทานต่อรอยขีดข่วน : กระเบื้องยางมีวัสดุที่ช่วยให้มีความทนทาน ทั้งทนต่อรอยขีดข่วนและแรงกระแทก ช่วยให้สัมผัสสบายเท้า 

2. ทนต่อแรงกระแทก : กระเบื้องยางมีความยืดหยุ่นสูง เมื่อมีการกระแทกเกิดขึ้น พื้นจะไม่แตกตัว ทำให้ทนต่อแรงกระแทกได้ดี และทนต่อการวางของหนักๆ ได้อีกด้วย

3. เก็บเสียงได้ดี : กระเบื้องยางช่วยซับเสียงการเดินได้ดี อีกทั้งยังไม่มีปัญหาเสียงกลวงๆ ของกระเบื้องเหมือนกับกระเบื้องแผ่นที่ปูไม่ได้มาตาฐาน ช่วยลดเสียงรบกวนภายในบ้านได้

4. มีลวดลายให้เลือกมากมายประหยัดค่าใช้จ่าย : กระเบื้องยางสามารถทำลวดลายได้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะลายไม้ ที่มีความเหมือนมากๆ ช่วยให้สามารถประหยัดงบจากไม้จริงเป็นใช้กระเบื้องยางทดแทนได้

5. ทำความสะอาดง่าย : กระเบื้องยางมีคุณสมบัติทนน้ำ ทนความชื้น และพื้นผิวทำความสะอาดได้ง่าย ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการพองเหมือนไม้จริง ช่วยให้ดูแลง่าย